Business Intelligence (ต่อ)
Web Mining
Web Mining ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ Technology และ ผู้รับ โดยมีการใช้ Internet เป็นสื่อกลาง เกิดจากการเก็บข้อมูลใน server โดยใน web นั้นจะมีพฤติกรรมของผู้บริโภค/ผู้ใช้งานอยู่ โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบ (track) ได้ว่าผู้ใช้ทำอะไร การทำWeb Mining ก็คือ การค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคจาก web ผ่าน Web-based tools ศึกษา click stream ต่าง ๆ ทั้งนี้การทำ Web Mining จึงก่อให้เกิดประเด็นปัญหาในเรื่องของ ethic ในส่วนของการละเมิดความเป็นส่วนตัว
Web Mining แบ่งออกได้ 3 ประเภท ดังนี้
· Web content mining -- ดูจาก content ต่างๆ ที่อยู่บน web ที่ผู้ใช้เข้ามาดู เช่น ถ้าผู้ใช้อยู่ใน web นาน แสดงว่ามี content ที่เขาสนใจ
· Web structure mining -- ดูจากโครงสร้าง เช่น ดูว่าความน่าสนใจของการออกแบบเว็บนั้น จะสามารถทำให้ผู้เข้าชมจดจำ URL หรือต้องมีการนำชื่อเว็บไซต์ไป link ในเว็บอื่นๆ เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยสนใจที่จะจำชื่อเว็บไซต์
· Web usage mining -- ดูพฤติกรรมการใช้ของผู้ใช้ว่า ดูส่วนไหนบ้าง จากตรงนี้เลือกดูอะไรต่อ โดยวัดจาก click stream
Strategic Information System Planning
การวางแผนระบบ IT นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับองค์กรขนาดใหญ่ การวางแผนนี้จะช่วยให้การใช้ระบบ IT มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และสามารถใช้ได้อย่างถูกต้องและถูกเวลา
Four-stage model of IS/IT planning
เป็นพื้นฐานในการพัฒนา Portfolio of applications โดยเป็นการทำให้สอดคล้องกันระหว่าง เป้าหมายขององค์กรและการได้เปรียบจากคู่แข่ง ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอนดังนี้
· Strategic planning -- การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแผนขององค์กร กับ แผน IT
1) Set IS mission -- องค์กรมองการใช้ระบบ IS/IT เป็นอย่างไร มองเป็นกลยุทธ์หรือเครื่องมือเสริมกลยุทธ์
2) Access environment – ประเมินสภาพแวดล้อม โดยจะต้องรู้สถานการณ์ขององค์กร เช่น ระบบปัจจุบันที่มีอยู่ แนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคต ภาพพจน์ของระบบ IS เป็นต้น
3) Access organizational objectives strategies – ประเมินแผนกลยุทธ์ vision mission objectives goal โดยทำการวิเคราะห์ SWOT หรือ 5-forces
4) Set IS policies, objectives, strategies -- ตอบคำถามเกี่ยวกับองค์กร ว่ามองระบบสารสนเทศอย่างไร
· Organizational Information requirements analysis -- ระบุข้อมูลที่ใช้ในการสร้างโครงสร้าง strategic information
1) Access organization's information requirements -- ประเมินความต้องการ ทั้ง Current information needs และ Projected information needs
2) Assemble master development plan – จัดสรรความจำเป็นตามลำดับความสำคัญและวางแผนระยะเวลาของแผน
· Resource allocation planning – ประเมินทรัพยากรที่ต้องใช้ในระบบสารสนเทศที่เสนอมา โดยแบ่งสัดส่วนระหว่าง IT application development resource กับ operational resource ผ่านขั้นตอนDevelop resource requirement plan
· Project planning -- พัฒนาแผนงาน ตารางงาน และ resource ที่ต้องการ สำหรับ specific IS project ผ่านขั้นตอน Evaluate project and develop project plans โดยนำเอา Project management มาประยุกต์ช้
ตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนระบบที่ใช้งานในปัจจุบัน
The business systems planning (BSP) model
BSP คิดค้นขึ้นโดย IBM เป็นการวางแผนที่แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ Business Process และ Data classes กล่าวคือ ทำการค้นหา Business Process เพื่อใช้กำหนด Data classes เน้นการทำงานทั้งในรูปแบบ Top down และ Bottom up ซึ่งจะทำให้มองเห็นภาพรวมของระบบอย่างชัดเจนมากขึ้น แต่ใช้ระยะเวลานานและเป็นการมองในมุมมองในปัจจุบันเท่านั้น ขั้นตอนของ BSP คือ
1) Gaining the commitment
2) Preparing for the study
3) Starting the study
4) Defining business process
5) Defining data classes
6) Analyzing current systems support
7) Determining the executive perspective
8) Defining findings and conclusions
Strength ของ BSP คือ
- มองอย่างครอบคลุมทั้งองค์กร ระบบ ผู้ใช้ข้อมูล และช่องว่าง
- เหมาะสำหรับช่วงเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง หรือการเปลี่ยนแปลงเป็นจำนวนมาก
Weakness ของ BSP คือ
- ใช้ระยะเวลานาน
- ผลิตข้อมูลเป็นจำนวนมาก ต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการจัดเก็บข้อมูลและยากในการวิเคราะห์
- ใส่ใจกับข้อมูลปัจจุบันมากกว่าอนาคต
Critical success factor (CSF)
CSF คือหลักการ MIT ที่ทำให้องค์กรมั่นใจในเรื่อง Survival และ Success ซึ่งมองในมุมของผู้บริหารในด้าน Critical Success Factors ซึ่งมีความแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อตัดสินใจว่าควรใช้ระบบ IT แบบใดมาใช้ในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด โดยแนวคิดนี้จะใช้ข้อมูลที่น้อยกว่า BSP และมีการมองถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมร่วมด้วย แต่ผู้วางแผนจะต้องมีทักษะและความเชี่ยวชาญค่อนข้างมาก CSF มีขั้นตอนดังนี้
1) Aggregate and Analyze Individual CSFs
2) Develop Agreement on Company CSFs
3) Define Company CSFs
4) Define DSS and Database and Use CSFs to Develop Information Systems Priorities
Strength ของ CSF คือ
- ข้อมูลจำนวนน้อยกว่าในการวิเคราะห์
- คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
- ให้ความสำคัญกับเรื่องที่ว่าองค์กรจะจัดการกับข้อมูลอย่างไร เน้นที่อนาคตขององค์กร
Weakness ของ CSF คือ
- ขั้นตอนและการวิเคราะห์อยู่ในรูปของ art form
- เกิดความสับสนของผู้ให้สัมภาษณ์ระหว่าง CSF ของตนเองและขององค์กร
- ไม่ให้ความสำคัญกับผลกระทบของสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น